Things to know Fade Type

หลังจากที่ได้รู้ที่มาของการเฟดกางเกงยีนส์แล้ว ตอนนี้เรามารู้จักรอยเฟดกันให้ลึกมาขึ้นยิ่งขึ้น ยีนส์ผ้าดิบจะเฟดเมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ แต่ละรอยเฟดก็จะต่างกัน และทำไมยีนส์แต่ละตัวมีเอกลักษณ์สะท้อนตัวตน การใช้ชีวิตประจำวันของเจ้าของ และสิ่งที่พกพาไปกับกางเกงยีนส์ด้วย

เราจะเปรียบว่ากางเกงยีนส์ผ้าดิบเป็นเหมือนผืนผาใบที่เรื่องราวของผู้ใส่ จะถูกเล่าถ่ายทอดผ่านลวดลายเฟดบนตัวกางเกง แล้วรู้หรือไม่ว่าแต่ละตำแหน่งรอยเฟด ก็มีชื่อเรียกของมันด้วย ติดตามได้ในบทความนี้กันเลย...

Whiskers

เป็นรอยเฟดที่พบได้บ่อยที่สุด แล้วก็ปั้นขึ้นง่ายที่สุด ตำแหน่งอยู่บริเวณเป้ากางเกงไปถึงช่วงเหนือต้นขา

Whisker มีที่มาจากหน้าตาของรอยที่เหมือนหนวดของแมว
ถ้าอยากปั้นเฟดช่วงนี้ให้ขึ้นเร็วๆ แนะนำให้ทำท่า squat และท่าโค้งตัวต่างๆก็ช่วยได้ครับ

 

Honeycombs

Honeycombs หรือเรียกสั้นๆว่า comb เป็นรอยที่เกิดขึ้นด้านหลังหัวเข่า ศึ่งหน้าตาของเฟดก็จะเหมือนกับ honeycombs หรือรังผึ้ง เลยเป็นที่มาของชื่อนี้นเอง

กางเกงที่ผ้าหนาและทรงผลมหน่อยจะทำให้เฟดขึ้นชัดมาก เป็นเหมือน 3 มิติ ส่วนทรงที่เข้ารูปมาหน่อยก็จะได้ลายเส้นแน่นๆ หรือเป็นลายทาง

สำหรับการปั้นเฟดช่วงนี้ให้ขึ้นไว แนะนำให้ปั่นจักรยานหรือเลือกกิจกรรมที่ได้เคลื่อนไหวเข่าเยอะๆ

Stacks

การจะปั้นเฟดส่วนนี้ ต้องเลือกกางเกงให้ขายาวกองๆเลยเท้ามาเยอะหน่อย ซึ่งเราสามารถจัดทรง stack ได้โดยพรมน้ำบนขากางเกิงหน่อยๆ และใช้มือจัดให้เป็นทรงตามที่อยากได้

การใส่รองเท้าหุ้มช้อ หรือรองเท้าบูทก็ช่วยได้มาก ลองกันดูได้นะครับ

Roping effect

เป็นรอยที่พบได้ที่ปลายขากางเกง เป็นรอยเชือก
ในตอนที่ผลิตกางเกง ช่วงที่เย็บริม เกิดแรงตึงที่ไม่เท่ากันบนเนื้อผ้า ซึ่งแรงตึงที่ดึงปลายขาไว้นราเองที่ทำให้เกิดเป็นลวดลายเหมือนเชือกตามขอบกางเกง

Train tracks

เป็นรอยเฟดที่พบได้ไม่บ่อยนัก เมื่อเวลาผ่านไปซักลายจะค่อยๆเห็นชัดขึ้นเอง

ซึ่งลายนี้ก็จะหน้าตาเหมือนรางรถไฟตามชื่อนั่นเอง ความยากก็คือลายนี้มันค่อยขึ้นแตกลายเยอะท่าไหร่นัก ไม่อย่างนั้นอาจจะลองใส่นอนดูอาจจะพอช่วยได้ครับ